วิธีที่นกเมียหลวงปกป้องลูก
นกกระจอกเทศเป็นนกขนาดใหญ่ที่สุดที่มีชีวิตอยู่ แต่มันบินไม่ได้ มันจึงต้องทำรังไว้บนพื้นดินโดยการคุ้ยดินให้เป็นหลุมตื้นๆ
ไข่นกกระจอกเทศหนักราวฟองละ 1.5 กก. นับเป็นอาหารที่แม้แต่สัตว์ผู้ล่าขนาดใหญ่ เช่น หมาแจ็กคัล หมาไฮยีนา หรือ บางครั้งสิงโต ก็ยังสนใจกิน ภัยคุมคามชีวิตมากมายเช่นนี้ ทำให้ต้องมีมาตรการพิเศษเพื่อปกป้อง นกกระจอกเทศจึงได้พัฒนาแบบแผนในการสืบพันธุ์และการฟักไข่ขึ้นเป็นพิเศษ
พ่อนกกระจอกเทศมีสัมพันธ์คู่อันแน่นแฟ้นกับแม่นกเพียงตัวเดียวที่เป็น "เมียหลวง" แม้ว่าพ่อนกจะผสมพันธุ์กับตัวเมียตัวอื่นๆอีกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ "เมียน้อย" เหล่านี้ได้รับอนุญาตให้วางไข่ในรังได้เท่านั้น ห้ามไปวางไข่หรือสร้างรังเองที่อื่น โดยจะไม่มีส่วนในการกกไข่ของตัวเอง อันเป็นงานของพ่อนกกับแม่นกเมียหลวงที่จะต้องทำเท่านั้น
ถึงเวลากกไข่ พ่อนกนั่งกกไข่เวลากลางคืนที่มีอันตรายมากกว่า ส่วนแม่นกจะรับช่วงกกไข่ต่อในเวลากลางวัน
สัตว์ที่จะดูแลลูกของสัตว์ตัวอื่นนั้นหายาก ด้วยเหตุที่การช่วยลูกสัตว์อื่นจะทำให้มีอาหารและสิ่งจำเป็นอื่นๆสำหรับลูกของมันเองน้อยลง และนกกระจอกเทศเมียหลวงก็ไม่ได้ใจกว้างมากไปกว่าแม่นกตัวอื่นๆแต่ประการใด ดังนั้นเมื่อรังเต็มและมันไม่อาจกกไข่ทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันจะดันไข่บางฟองที่ไม่ใช่ของมันออกจากรังไป ไข่ที่ถูกดันออกจากรังจะเรียงรายอยู่รอบๆรัง
ไข่ที่ถูกทิ้งพวกนี้จะถูกละเลยอยู่กลางแดดและไม่มีวันฟักเป็นตัว แต่จะเป็นไข่พวกแรกที่สัตว์ผู้ล่าพบ และอาจมีจำนวนพอเพียงสำหรับระงับความหิวได้
อย่างไรก็ตาม ไข่เหล่านี้ก็จะดึงความสนใจไปจากไข่ของเมียหลวงที่ยังคงอยู่ภายใต้อกของพ่อหรือแม่ในรังอย่างปลอดภัย