แม่ที่แบกไข่ไว้ใต้ผิวหนัง
กบและคางคกหลายชนิดแบกไข่ของมันไว้บนหลัง คางคกพันธุ์ซูรินาม ในทวีปอเมริกาใต้ อันเป็นเขตเส้นศูนย์สูตรนั้น ต้องอาศัยลวดลายการว่ายน้ำที่สอดคล้องกัน เพื่อให้ไข่ขึ้นไปอยู่บนหลังตัวเมีย
คางคกที่กำลังเกี้ยวพานกันจะว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำในขณะผสมพันธุ์ เมื่อขึ้นมาใกล้ผิวน้ำ มันก็กลับตัวตีลังกาเพื่อว่ายวนเป็นวงใต้น้ำ ตัวเมียวางไข่ออกมา 2-3 ฟองในขณะที่อยู่ด้านบนของวง ตัวผู้ปล่อยน้ำเชื้อเข้าผสม สัตว์ทั้งคู่วางไข่และผสมน้ำเชื้อได้ประมาณ 100 ฟอง ด้วยวิธีตีลังกาแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ในขณะที่ฟองไข่จมลงบนหลังของตัวเมีย ตัวเมียก็จะปล่อยเยื่อหยุ่นๆ ออกมาคลุมไว้ หลังจากนั้นประมาณ 1-2 วัน ก็มองไม่เห็นไข่ เพราะไข่ได้ฝังตัวจมอยู่ในหลังของตัวเมียจนมิด แม่คางคกแบกไข่ไว้นานประมาณ 3 เดือน ก่อนจะฟักเป็นลูกอ๊อด ที่ดิ้นหลุดจากใต้ผิวหนังแม่แล้วว่ายน้ำผละไป
กบชนิดหนึ่งในทวีปอเมริกาใต้นั้น ตัวเมียมีถุงใส่ลูก และปกป้องไข่ไว้บนหลัง ซึ่งมีผิวหนังอีกชั้นประกบ ทำให้มีลักษณะเป็นถุงที่มีปากแคบอยู่ติดกับขาหลัง ตัวเมียต้องจัดท่าทางขณะผสมพันธุ์ให้ดี คือ ต้องปักหัวลงและชูขาหลังขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ไข่เข้าไปในถุง ตัวผู้เกาะหลังตัวเมียไว้และผสมน้ำเชื้อลงไปในไข่ซึ่งตัวเมียปล่อยออกมาทีละฟอง แล้วไข่ก็ไถลตามร่องชื้นๆ บนหลัง จนลงไปในถุงที่คอยรับอยู่
ในถุงนี้ ไข่กบจะเจริญเป็นลูกอ๊อดและอาศัยอยู่จนกลายเป็นลูกกบ เมื่อโตเต็มที่แล้ว แม่กบก็เอาตีนหลังดึงปากถุงเปิด ปล่อยให้ลูกกบกระโดดออกมา